คุณเคยมีประสบการณ์เวลาขายสินค้าแล้วโดนลูกค้าปฏิเสธ...

คุณเคยมีประสบการณ์เวลาขายสินค้าแล้วโดนลูกค้าปฏิเสธไหมครับ ?
.
แล้วเวลาคุณโดนคำปฏิเสธคุณทำยังไงครับ ?
.
หลายคนมักจะทำตัวไม่ถูก บางคนถึงขนาดร้อนรนจนพูดอะไรไม่รู้ออกมามากมายเต็มไปหมดเพื่อโต้แย้งคำปฏิเสธของลูกค้า
.
ซึ่งหลายครั้งวิธีนี้ก็มักจะไม่ได้ผล แถมยังทำให้ลูกค้าอยากจะเดินหนีอีกต่างหาก แต่ก็ยังมีคนใช้กันมากมาย เพราะคิดอะไรไม่ออก
.
แต่คุณรู้ไหมครับว่า จริงๆ แล้วการเปลี่ยนคำปฏิเสธของลูกค้า มันไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดให้มากความเพื่อโต้แย้งเลยสักนิด เพราะคนที่เป็นนักขายระดับท็อปเซลล์ เขาแค่ “ปรับการใช้คำ” เพียงนิดเดียวเท่านั้น ก็สามารถเปลี่ยนคำปฏิเสธของลูกค้าให้กลายเป็นเงินในกระเป๋าได้แล้ว
.
หากคุณไม่อยากเป็นคนหนึ่ง ที่ทำเงินหล่นหายเพราะเปลี่ยนคำปฏิเสธของลูกค้าไม่ได้ ก็ลองนำเทคนิคที่ผมกำลังจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ ไปปรับใช้ดูครับ
.
1. อย่าใช้คำว่า “ถ้า” แต่จงใช้คำว่า “เมื่อ”

ยกตัวอย่างเช่น

“ถ้าคุณตัดสินใจซื้อ ผมมั่นใจว่าคุณต้องชอบมันแน่ๆ”

# ให้เปลี่ยนคำเป็น
.
“เมื่อคุณตัดสินใจซื้อ คุณจะต้องชอบมันแน่นอน” แบบนี้ถึงจะถูก
.
หรือ ถ้าคุณลองใช้สินค้าตัวนี้ดู คุณจะรู้ว่ามันคุ้มค่าแน่ไหน
.
# ให้เปลี่ยนคำเป็น
.
เมื่อคุณได้ทดลองใช้สินค้าตัวนี้แล้ว คุณจะรู้สึกได้ทันที ว่ามันคุ้มค่าขนาดไหน
.
จงจำไว้ให้ขึ้นใจ ว่าห้ามใช้คำว่า “ถ้า” เด็ดขาด เพราะคำว่า “ถ้า” คือ คำที่ไม่มีพลัง เพราะมันดูเหมือนว่าคุณเองก็ยังไม่ค่อยมั่นใจในสินค้าของตัวเอง ซึ่งมันจะทำให้ทุกอย่างดูไม่น่าเชื่อถือ
.
แต่คำว่า “เมื่อ” คือ คำที่มีพลังบวก
.
ดังนั้น ถ้าคุณอยากจะเปลี่ยนคำปฏิเสธของลูกค้า สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ การฝึกใช้คำว่า “เมื่อ” ให้คล่อง
.
.
2. อย่าเถียงเพื่อชนะ เพราะหน้าที่ของคุณคือ ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น
.
เวลาลูกค้าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณกำลังนำเสนอ อย่ารีบเถียงเพื่อโต้แย้ง เพราะหน้าที่ของคุณ ไม่ใช่การเอาชนะ แต่คือ การพิสูจน์ให้ลูกค้าเห็น
.
เพราะเมื่อไหร่ที่คุณแสดงให้เห็นว่า คุณยอมรับความคิดเห็นต่าง มันก็เท่ากับว่า คุณได้ปลดอาวุธ และ ลดกำแพง ของลูกค้าแล้ว
.
สมมติว่าคุณขายเครื่องดูดฝุ่น แล้วลูกค้าพูดว่า…
.
เครื่องดูดฝุ่นของคุณ ดูท่าทางจะกินไฟนะ !!
.
ถ้าเป็นนักขายทั่วไป ก็มักจะรีบตอบปฏิเสธกลับไปว่า “มันไม่ได้กินไฟเลย มันกินไฟที่ไหนล่ะ สินค้าของเราประหยัดไฟเบอร์ 5”
.
การพูดแบบนี้ มันคือ การประกาศเป็นศัตรูและกำลังอยู่คนละฝั่งกับลูกค้าชัดเจน เพราะมันเหมือนกับการเอาดาบมาฟันทำลายความคิดเห็นที่ลูกค้าแสดงออกมา
.
ดังนั้น สิ่งที่คุณควรพูด คือ
.
ใช่ครับ คุณลูกค้าอาจจะคิดแบบนั้น จริงๆ หลายคนพอเห็นมันครั้งแรก ก็บอกว่ามันน่าจะเปลืองไฟหมดแล้ว เพราะมันดูทรงพลังมาก แต่จริงๆ แล้วผมจะแสดงให้ดู ว่าเครื่องดูดฝุ่นตัวนี้มันใช้ไฟเท่าไหร่
.
นี่คือ การบอกลูกค้าแบบเนียนๆ ว่า เครื่องดูดฝุ่นของคุณไม่กินไฟ อย่างที่เขาคิด แต่มันคือ วิธีการใช้คำ ที่ดึงลูกค้ามาเป็นพวกเดียวกัน ไม่ใช่การสร้างศัตรู
.
หรือ ถ้าลูกค้าบอกว่า “เครื่องดูดฝุ่นของคุณมันดูหนักมากเลยนะ”
.
ห้ามเด็ดขาดที่จะตอบว่า “มันหนักหรอ มันไม่หนักเลยนะ น้ำหนักแค่ 1 กิโล”
.
แต่ให้พูดว่า “จริงอยู่ครับถ้าเห็นขนาดตัวของมันแล้วอาจจะดูหนัก แต่ลูกค้าลองถือดูสิครับ แล้วจะรู้เลยว่า มันเบาแค่ไหน”
.
จำไว้ว่า เวลาลูกค้าโต้แย้งคุณ อย่าเถียงเขากลับไป แต่ให้ทำเหมือนเห็นด้วย แล้วค่อยๆ ดึงลูกค้ามาเป็นพวก
.
.
3. อย่าร้อนตัว
.
คนส่วนใหญ่ เวลาโดนลูกค้าปฏิเสธ หรือ โดนลูกค้าโต้แย้งสิ่งที่ตัวเองกำลังเสนอขาย ก็มักจะร้อนรนพยายามอธิบาย และ พูดมากจนเกินไป จนหลายครั้งมันกลับกลายเป็นเหมือนคำแก้ตัวในสายตาของลูกค้า
.
ดังนั้น เวลาตอบข้อโต้แย้ง คุณไม่ต้องพยายามอธิบายอะไรให้ยาวยืด เพราะยิ่งคุณพูดยาวยืดมากเท่าไหร่ มันจะยิ่งดูมีพิรุธ
.
สิ่งที่คุณควรทำคือ ตอบให้ตรงจุดโดยใช้คำพูดให้น้อยที่สุด ยิ่งคุณตอบน้อยคำ โอกาสที่ลูกค้าจะแย้งกลับมาก็จะยิ่งน้อยลง
.
เพราะยิ่งคุณพูดมากเท่าไหร่ ลูกค้าจะมีเวลาคิดข้อโต้แย้ง และ จับผิดคุณมากขึ้นเท่านั้น
.
แต่ในทางกลับกัน ถ้าคุณปล่อยให้ลูกค้าพูดยาวๆ ออกมา คุณจะมีเวลาคิดมากขึ้น แล้วคำตอบของคุณจะทรงพลัง
.
ฉะนั้น พยายามปล่อยให้ลูกค้าเป็นฝ่ายพูด ส่วนคุณมีหน้าที่ถามคำถามที่เกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังจะขาย เช่น
.
“คุณลูกค้าชอบชิ้นไหนมากกว่ากัน ?”
“คุณลูกค้าชอบสี ดำ หรือ สีขาว ครับ ?”
“นี่ใช่ขนาดที่ลูกค้ากำลังมองหาอยู่หรือเปล่าครับ?”
“เป็นยังไงบ้างครับ สัมผัสแล้วดูนุ่มนวลใช่ไหม?”
.
คุณต้องถามคำถามที่ทำให้ลูกค้าตอบ Yes Yes Yes พร้อมกับ พยักหน้าไปเรื่อยๆ อย่าไปถามอะไรให้เขาส่ายหน้า
.
.
4. ให้เกียรติ ลูกค้าที่รู้มาก (แต่ไม่รู้จริง)
.
หลายครั้งเวลาลูกค้ามาซื้อสินค้ากับเรา เขามักจะทำท่าทีเหมือนรู้รายละเอียดในตัวสินค้ามาก แต่คุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าจริงๆ แล้วเขาไม่ได้ รู้ลึก และ รู้จริง เท่าเราที่อยู่กับสินค้านี้มานานหรอก
.
แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ลูกค้าจะรู้ไม่จริง แต่คุณต้องทำให้เขารู้สึกว่าคุณให้เกียรติความคิดเห็นของเขา เพราะเมื่อคุณทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองมีค่า เขาก็จะฟังคุณ และ หลังจากที่เขาพูดออกมาจนหมด คุณก็จะขายง่ายขึ้น
.
อย่าพยายามไปตัดบท ปล่อยให้เขาพูดไป เพราะเมื่อเขาพูดออกมาเยอะๆ มันก็เหมือนการต้อนตัวเองให้จนมุม จนหมดคำโต้แย้งเอง
.
ที่สำคัญ คือ เมื่อเราปล่อยให้ลูกค้าประเภทนี้พูดไป เผลอๆ เขาอาจปิดการขายตัวเอง โดยที่เราไม่ต้องพยายามไปเลยด้วยซ้ำ
.
ดังนั้น ถ้าคุณเจอลูกค้าประเภทนี้ ให้ดึงเขาเข้ามาเป็นพวกเดียวกับเรา ด้วยการตั้งคำถามอย่างถูกวิธี เช่น
.
“ลูกค้ามีความเห็นอย่างไรบ้างครับ ?”
“ถ้าเป็นลูกค้า จะเลือกอันไหนครับ ?”
.
อย่าลืมว่า หน้าที่ของคุณ คือ ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายขึ้น ไม่ใช่จ้องจะเถียงเพื่อเอาชนะ
.
จำไว้ว่า เมื่อไหร่ที่คุณเถียงลูกค้าชนะ นั่นหมายความว่า คุณแพ้ราบคาบทันที เพราะเขาจะอารมณ์ไม่ดี แล้วเดินหนีไปจากคุณ
.
เพราะการชนะลูกค้าที่แท้จริง คือ การทำให้เขายอมควักเงินในกระเป๋าออกมาจ่ายให้คุณต่างหาก
.
.
และ นี่คือ 4 วิธีเปลี่ยนคำปฏิเสธ เป็นเงินในกระเป๋า ที่คนระดับท็อปเซลล์เท่านั้นที่รู้
.
แต่ข่าวดี คือ คุณเองก็สามารถเพิ่มเงินในกระเป๋าให้ตัวเอง แบบท็อปเซลล์ได้ เมื่อได้นำเทคนิคอันแสนเรียบง่าย จากหนังสือ Testedselling และ เดชคัมภีร์ลับ นักขายมือโปร ไปใช้
.
เพราะนี่คือ คัมภีร์การขายอายุกว่าร้อยปี ที่นักขายยอด 7 หลักทุกคนอ่าน
.
บอกเลยว่า เทคนิคจากหนังสือเล่มนี้ คือ เคล็ดลับที่เรียบง่ายมากๆ เพราะมันมีเพียงไม่กี่ข้อ ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องจำเยอะ
.
รับรองเลยว่า แค่คุณฝึกเทคนิคง่ายๆ แค่ไม่กี่อย่าง คุณก็สามารถขายของทุกอย่างบนโลกใบนี้ได้
.
และผมรู้ว่า คุณอยากเป็นคนนั้น
.
ยินดีด้วยครับ เพราะคุณเป็นได้ทันที และ ง่ายมากๆ แค่กดลิงก์ข้างล่างนี้ คุณก็สามารถเป็นเจ้าของคัมภีร์การขาย ที่จะช่วยให้คุณมียอดขายทะลุ 7 หลักต่อเดือนได้
.
.
# ชุดหนังสือคัมภีร์การขาย Testedselling และ เดชคัมภีร์ลับ นักขายมือโปร
.
# ราคาปกติ 1,030 บาท รวมส่ง
.
# แต่สำหรับคนที่สั่งซื้อแบบแพ็คคู่ รับราคาพิเศษทันที เพียง 950 บาท จัดส่งฟรี
.
# ปล. หนังสือมีจำนวนจำกัด แค่ 20 ชุด เท่านั้น
.
วิธีการสั่ง
.
1.กดลิงก์ https://m.me/432860907260347?ref=sale_7DgrDZ5d
.
2.กด “สั่งซื้อ”
.
3.เลือก “จำนวน” และ กด “ยืนยันคำสั่งซื้อ”
.
จากนั้น ชำระเงิน ตามเลขบัญชีที่ให้ไว้ใน Inbox
.
.
# สำหรับสั่งซื้อแบบแยกเล่ม ราคา เล่มล่ะ 535 บาท รวมส่ง
.
ลิงก์สั่งซื้อ Testedselling (บทความนี้อ้างอิงจากเล่มนี้) https://m.me/432860907260347?ref=sale_pABbkAna
.
ลิงก์สั่งซื้อ เดชคัมภีร์ลับ นักขายมือโปร https://m.me/432860907260347?ref=sale_8MxqRYVA

---